Wednesday, February 5, 2014

ประวัติของโคมไฟ

             นับแต่สมัยโบราณยามค่ำคืนไม่มีแสงสว่างจากไฟฟ้ามีเพียงแต่แสงดาว แสงจันทร์ และคบเพลิง ซึ่งจากคบเพลิงไม้ก็ได้นำไปสู่โคมไฟเพื่อใช้เป็นแสงสว่างยามค่ำคืนโคมไฟถูกสร้างขึ้นน่าจะรับอิทธิพลมาจากประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันโคมไฟที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆเลยก็คือโคมไฟไม้สักซึ่งมีความสวยงาม คงทน แข็งแรง แต่มีความคลาสสิกในตัวของโคมเอง      
     
ลักษณะของดวงโคมไฟ             
         1.ดวงโคมไฟเพดานเป็นดวงโคมไฟที่ติดเหนือศีรษะ บริเวณฝ้าเพดานหรือห้องลงมาจากเพดาน เช่น โคมไฟห้อยเพดานหรือไฟช่อระย้าที่มีรูปแบบต่างๆให้เลือกมากมาทั้งที่ทำจากแก้ว พลาสติก โลหะ หรือเซรามิคมีทั้งแบบโคมไฟธรรมดาราคาไม่แพงไปจนถึงโคมไหแชนเดอเลียร์ที่ประกอบไปด้วยหลอดไฟเล็กๆมากมายสวยงามให้แสงสว่างและความร้อนมาก กินไฟมากราคาแพงไฟติดเพดานมีทั้งแบบดวงโคมที่ยึดติดกับฝ้าเพดาน ประกบอไปด้วยที่ครอบหรือโป๊ะทำจากแก้วหรือพลาสติกคลุมหลอดไฟเพื่อช่วยในการกระจายแสง เช่นโคมไฟโป๊ะกลมสำหรับหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ หรือโคมไฟซาลาเปาสำหรับหลอดไส้เป็นต้นและแบบที่ติดตั้งโดยเจาะฝ้าเพดานฝังซ่อนดวงโคมไว้ภายในที่เราเรียกกันว่า
ไฟดาวน์ไลท์(Downlight)ซึ่งให้แสงสว่างได้ดีสามารถเลือกใช้ชนิดของหลอดไหลักษณะของแสงที่ส่องลงมาและทิศทางการส่องของสำแสงได้หลายแบบเป็นได้ทั้งไฟพื้นฐานและไฟสร้างบรรยากาศ      
  2. ดวงโคมไฟผนังเป็นชนิดที่ใช้ยึดติดกับผนัง มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบเช่นกัน การกระจายแสงส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับลักษณะของโป๊ะมีทั้งแบบให้แสงส่องออกมาตรงๆหรือแบบสะท้อนเข้าผนังเพื่อสร้างบรรยากาศให้กับห้อง เป็นต้น                
       3. ดวงโคมไฟตั้งพื้น ตั้งโต๊ะเป็นดวงโคมไฟแบบลอยตัวที่ช่วยในการให้แสงสว่างตามจุดต่างๆเป็นพิเศษ เช่น ในบริเวณที่นั่งอ่านหนังสือโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะหัวเตียงและยังใช้เป็นของประกอบการตกแต่งในห้องชุดร่วมกับชุดเฟอร์นิเจอร์อื่นๆอีกด้วย เช่น ชุดรับแขก ชุดทานอาหารเป็นต้น มีรูปแบบและวัสดุให้เลือกมากมายหลายหลายราคา              
       4.ลักษณ์โคมไฟจากกะลามะพร้าวมีลักษณ์เดียวกับโคมไฟตั้งพื้นตั้งโต๊ะแต่สามารถออกแบบได้หลายแบบสีสันสามารถทำไดหลายสีแต่ที่นิยมคือสีเนื้อไม้


วัสดุอุปกรณ์


                                    ๑.มีดเหลา               ๒.สว่าน
   ๓.หวายย้อมสี               ๔. แท่งกาว  ปืนกาว
.ฝาครอบ แกนใส่หลอดไฟ   ๖.หลอดไฟ สายไฟ น็อต ไขควง ขั้วหลอดไฟ
                                         ๗.แกนไม้                  ๘.หวาย
๙.แผ่นสานไม้ไผ่

วิธีการทำ

 
๑.นำไม้ไผ่มาเหลา แล้วนำมาสายให้เป็นตาข่าย จากนั้นนำตาข่ายที่ได้ทาด้วยกาวนำมาติดกับโครงไม้ไผ่ที่เตรียมไว้
๒.นำสว่านนำมาเจอะรูตรงขอบของแกนไม้แล้วขอบข้างหน้าให้มีความกว้าง 1 เซนติเมตร
๓.นำหวายที่เตรียมไว้นำมาสอดโดยสอดทั้ง2 ข้างให้ครบ พร้อมกับดัดให้มีเค้าโครงที่สวยงาม
๔.สารไม้ไผ่แล้วนำมาครอบที่ตรงกลางของไม้ทาด้วยกาวแล้วนำหวายมาติดตกแต่ง
๕.นำสายไฟมาสอดจากรูข้างหลังให้ทะลุมาข้างหน้า

                   ๖.นำสายไฟมาต่อกับขั้วโดยจะมี2ขั้ว แล้วนำน็อตมาขันให้ติดกับแกนไม้
๗.นำหลอดไฟมาใส่ที่ขั้ว
๘.นำหวายมาสอดให้มีลักษณะไขว่กันเป็นรูปถักเปีย
๙.นำฝาของพัดลมที่ได้นำมาประกอบกับแกนไม้ที่เตรียมไว้โดยทาด้วยกาวให้หนาแน่น และนำฝาครอบที่เตรียมไว้นำมาปิดให้หนาแน่น



ปราชญ์ชาวบ้าน





                             นาย สิงห์แก้ว  จันทร์น้อย  อายุ ๖๒ ปี

            บ้านเลขที่ ๙๓ หมู่ ๔ ตำบล ป่าบง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่

ผลงาน


คณะผู้จัดทำ



จัดทำโดย
                                            
                                          นางสาว  ศิริรัตน์       บุญจู           ๕๖๒๒๒๓๑๓
                                          นาย   ภานุวัฒน์  คำอ้าย              ๕๖๒๒๒๓๑๘
                                          นางสาว  ปรียากมล  เมืองโคตร  ๕๖๒๒๒๓๐๖
                                                                                                (นับจากซ้ายไปขวา)